หากกล่าวถึงแบรนด์ระดับโลกที่มีอายุยาวนานนับร้อยกว่าปี แต่ยังครองใจผู้คน รวมถึงมีมูลค่าทางการตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 60.152 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลปี 2024) ซึ่งนับว่าเป็นมูลค่ามหาศาล ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นคุณสมบัติของ CHANEL แบรนด์ดังฝรั่งเศสที่ครองอันดับต้น ๆ ของตลาดอย่างไม่มีตกอันดับ
ในทางกลับกัน แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงไหน ความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ CHANEL กลับมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแค่สินค้าใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึง แบรนด์เนมมือสอง ที่ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดนักสะสมและนักลงทุน วันนี้แบคนิฟิคแบรนด์เนมจะพาทุกท่านมาค้นหาคำตอบว่าเพราะเหตุใด CHANEL จึงกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์หรูที่ขึ้นแท่นแบรนด์ฮิตตลอดกาล
CHANEL ไม่เพียงแต่เป็นแบรนด์แฟชั่น แต่ยังเป็นความสง่างามที่ไร้กาลเวลา ด้วยดีไซน์เรียบง่ายแต่หรูหรา เน้นการออกแบบใช้งานได้จริง สังเกตได้จากเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น ชุดสูททวีด กระเป๋าหนังควิลท์ และโทนสีขาว-ดำ ที่มักจะปรากฏอยู่ในคอลเลกชัน ตลอดจนน้ำหอม CHANEL NO.5 กลิ่นอันเป็นไอคอนของความหรูหรา
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยความคลาสสิก แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน กระเป๋า CHANEL และ ชุดเดรสสีดำ ที่ Coco Chanel ออกแบบก็เป็นไอเท็มที่จะคงอยู่ตลอดกาลและตลอดไป นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยม พร้อมด้วยงานฝีมือที่ประณีต ทำให้สินค้าทุกประเภทของแบรนด์มีความทนทาน และมีคุณค่าในการสะสม
ด้วยเหตุนี้ CHANEL จึงเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาด แบรนด์เนมมือสอง โดยเฉพาะกระเป๋ารุ่นคลาสสิกที่ยังคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ที่หลงใหลในแฟชั่นสามารถเลือกซื้อไอเท็มของ CHANEL ได้ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ผ่านร้านค้าแบรนด์เนมมือสองที่เชื่อถือได้
แม้แฟชั่นจะเปลี่ยนไป แต่ CHANEL ยังคงรักษา DNA ของแบรนด์ไว้ได้อย่างดี พร้อมปรับให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การออกแบบที่ร่วมสมัยภายใต้การนำของ Karl Lagerfeld และ Virginie Viard ทำให้แบรนด์ยังคงเป็นที่ต้องการเสมอ ทั้งในตลาดแฟชั่นและตลาด แบรนด์เนมมือสอง
แม้แบรนด์ CHANEL จะเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของการสร้างแบรนด์และรักษาสถานะของแบรนด์ ด้วยความสำเร็จที่มีอยู่หากเทียบกับจำนวนดีไซเนอร์ที่ได้ฝากผลงานไว้กับแบรนด์นี้ถือว่ามีจำนวนที่น้อยนิด แต่ล้วนเป็นบุคคลที่เข้าใจในแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่ Gabrielle “Coco” Chanel บุคคลผู้ก่อตั้งแบรนด์ และพลิกโฉมของวงการแฟชั่นในขณะนั้น ปฏิวัติวงการแฟชั่นด้วยแนวคิด “ความเรียบง่ายคือความหรูหรา” Coco Chanel ได้ออกแบบไอเท็มที่เป็นอมตะ เช่น กระเป๋า Chanel 2.55, Little Black Dress (LBD), สูททวีด, และน้ำหอม Chanel No.5 พยายามที่จะนำเสนอแฟชั่นที่ใส่สบายและสง่างาม แทนที่ชุดคอร์เซ็ตที่อึดอัดของยุคก่อนในช่วงเวลานั้น
ภายหลังการจากไปของ Coco Chanel ได้ปรากฏอัจฉริยะผู้พลิกโฉมของแบรนด์ CHANEL อย่าง Karl Lagerfeld ที่มาเข้ารับตำแหน่ง Creative Director ในปี 1983 และทำให้แบรนด์มีความโมเดิร์นขึ้น โดย Karl ได้ฝากผลงานออกแบบอันเป็นตำนานของวงการอย่าง กระเป๋า Chanel Classic Flap Bag (เพิ่มโลโก้ CC) และนอกจากนี้ยังนำเสนอแฟชั่นโชว์สุดล้ำ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างมรดกของ Coco Chanel และนวัตกรรมแฟชั่นที่ผันเปลี่ยนในปัจจุบัน
ต่อมาภายหลังปี 2019 CHANEL ได้ Virginie Viard ดีไซเนอร์สาวไฟแรงผู้เคยเป็นมือขวาของ Karl Lagerfeld มาเป็นผู้สานต่อมรดกของแบรนด์ เธอได้มีนำเสนอคอลเลกชันที่เรียบง่าย แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ CHANEL โดยมุ่งเน้นการออกแบบที่ทันสมัยแต่ยังคงความคลาสสิก เช่น การปรับดีไซน์ชุดสูททวีดให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น
แม้แฟชั่นจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เอกลักษณ์ของ CHANEL ยังคงอยู่ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมสินค้าของแบรนด์จึงมีคุณค่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใหม่จากรันเวย์ หรือสินค้าจากตลาด แบรนด์เนมมือสอง ที่ยังคงได้รับความนิยมในหมู่คนรักแฟชั่นที่ต้องการครอบครองไอเท็มระดับตำนาน
CHANEL ไม่เพียงแค่สร้างแฟชั่น แต่ยังพลิกโฉมสิ่งธรรมดาให้กลายเป็น “ไอคอน” ที่ไร้กาลเวลา ผ่านดีไซน์ที่ปฏิวัติวงการและการนำเสนอที่แปลกใหม่ ตัวอย่างเช่น กระเป๋า Chanel 2.55 จากฟังก์ชันสู่แฟชั่น โดยก่อนปี 1955 กระเป๋าถือของผู้หญิงมักไม่มีสายสะพาย ทว่า Coco Chanel ได้ผลิต กระเป๋าแบรนด์ Chanel รุ่น 2.55 เป็นกระเป๋าสะพายรุ่นแรกของผู้หญิง ที่สามารถใช้ได้อย่างสะดวกสบายทั้งดีไซน์ หนังควิลท์ และสายโซ่สีทอง ที่ปัจจุบันกลายเป็นอีกสัญลักษณ์ของความหรูหรา
กระเป๋า Chanel 2.55 และไอเท็มยอดนิยมจากแบรนด์ CHANEL ยังเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นใน ตลาดแบรนด์เนมมือสองโดยเฉพาะในกลุ่มนักสะสมและผู้ที่มองหาสินค้าหรูในราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังคงความหรูหราและคุณภาพเหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังมีน้ำหอม Chanel No.5 น้ำหอมที่เปลี่ยนนิยามของความหรูหรา เนื่องจากในยุค 1920s น้ำหอมส่วนใหญ่มีเพียง “กลิ่นเดียว” แต่ CHANEL No.5 ใช้เทคนิคผสมผสานกลิ่นหลายชั้น และกลายเป็นน้ำหอมอีกหนึ่งชนิดที่โด่งดังที่สุดในโลก รวมถึงในปัจจุบัน CHANEL ยังคงไม่หยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในปี 2022 Virginie Viard ได้ออกแบบกระเป๋า Chanel 22 กระเป๋าสไตล์ใหม่ที่เป็นไอคอนของยุคปัจจุบัน โดย Virginie ได้เปลี่ยนแนวคิดของผู้คนที่มีต่อกระเป๋า Tote Bag ที่เคยถูกมองว่าเป็นไอเท็มลำลอง ให้กลายเป็นกระเป๋าแบรนด์หรูที่โมเดิร์นและเป็นที่ต้องการอย่างมากจนขึ้นแท่น IT BAG กระเป๋าแห่งยุคจวบจนถึงทุกวันนี้
จาก Coco Chanel สู่ Karl Lagerfeld ส่งต่อมายัง Virginie Viard แบรนด์ CHANEL ยังคงรักษา DNA ของความหรูหรา คลาสสิก และพร้อมพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างไม่มีเสื่อมคลาย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม CHANEL จึงกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล