ในยุคที่ตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว กระเป๋าแบรนด์เนมบางรุ่นก็กลายเป็นของหายากที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในแบรนด์ที่ครองใจนักสะสมและสายแฟชั่นตลอดกาลเลยก็คือ CHANEL ด้วยดีไซน์อันคลาสสิก วัสดุคุณภาพเยี่ยม และเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน ทำให้กระเป๋าของ CHANEL ไม่เพียงแต่เป็นไอเท็มแฟชั่น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีวี่แววว่าจะตกลง
กระเป๋าแบรนด์เนมของ CHANEL หลายรุ่นได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นวินเทจหรือรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ CHANEL โดดเด่นคือความ timeless ต่อให้ผ่านไปอีกกี่ปีก็ยังดูสวย หรูหรา และสามารถใช้งานได้ในหลากหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือการใช้ในชีวิตประจำวัน หากคุณกำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ทั้งคุ้มค่ากับการลงทุนและเสริมลุคให้ดูแพง CHANEL คือคำตอบ
ถ้าพูดถึงกระเป๋าแบรนด์เนมที่ครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกและไม่มีวันตกยุค Chanel Classic Flap Bag ต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน กระเป๋ารุ่นนี้ถูกออกแบบโดย Karl Lagerfeld ในปี 1983 โดยเป็นการนำแรงบันดาลใจมาจาก Chanel 2.55 ที่สร้างขึ้นโดย Coco Chanel ในปี 1955 แต่มีการเพิ่มลูกเล่นที่ทำให้ดูโมเดิร์นและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
เอกลักษณ์ของ Chanel Classic คือ ฝาพับด้านหน้า (Flap) ที่เป็นดีไซน์ไอคอนิก มาพร้อมกับ อะไหล่ CC Turn Lock ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีสายโซ่ร้อยหนังที่ช่วยเสริมความหรูหราและความสะดวกในการสะพาย ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือวันสบายๆ
ด้วยความคลาสสิกและดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา ทำให้ Chanel Classic Flap Bag กลายเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นกระเป๋า Brandname ที่เหมาะกับการลงทุนและการใช้งานในระยะยาวอย่างแท้จริง!
หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้กระเป๋า Chanel Classic Flap Bag เป็นที่นิยมและครองใจสาวๆ ทั่วโลก คือความหลากหลายของขนาดที่มีให้เลือกเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูและการใช้งานที่คล่องตัว ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้กลายเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่เหมาะกับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการลงทุนระยะยาว กระเป๋า Chanel Classic Flap มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ใบเล็กกะทัดรัดไปจนถึงใบใหญ่จุของได้มาก โดยแต่ละขนาดก็มีเสน่ห์และฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันไป
เริ่มจาก Chanel Classic Mini Square ซึ่งเป็นไซซ์เล็กสุดของกระเป๋า Chanel Classic มีขนาดประมาณ 6.5 x 5 x 2.5 นิ้ว หรือ 16.5 x 12.7 x 6.35 เซนติเมตร เหมาะสำหรับคนที่ชอบความมินิมอลและการพกพาที่สะดวก ใส่ของใช้จำเป็นเล็กๆ น้อยๆ อย่างโทรศัพท์มือถือ กุญแจ หรือลิปสติก เหมาะสำหรับออกงานเล็กๆ หรือใช้ในวันสบายๆ
ต่อมาคือไซซ์ Mini Rectangular ที่มีขนาด 7.9 x 4.8 x 2.8 นิ้ว หรือ 20 x 12 x 7 เซนติเมตร ซึ่งยังคงเป็นไซซ์เล็กแต่สามารถใส่ของได้มากขึ้น เช่น กระเป๋าสตางค์ใบเล็กและของใช้จำเป็น เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ไซซ์ Small ของ Chanel Classic Flap Bag มีขนาด 9.3 x 5.7 x 2.6 นิ้ว หรือ 23.5 x 14.5 x 6.6 เซนติเมตร เป็นขนาดกะทัดรัดที่ยังคงความหรูหรา ใส่ของใช้ประจำวันได้ครบ เหมาะกับคนที่มีรูปร่างเล็กหรือชอบกระเป๋าขนาดพอดี
ส่วนไซซ์ Medium ซึ่งเป็นขนาดยอดนิยม มีขนาด 10 x 6.3 x 3 นิ้ว หรือ 25.5 x 16 x 7.6 เซนติเมตร ด้วยขนาดที่กำลังดี ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งในวันธรรมดาและโอกาสพิเศษ ใส่ของจำเป็นได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ หรือเครื่องสำอาง
สำหรับคนที่ชอบกระเป๋าใบใหญ่ Chanel Classic Flap Bag ก็มีไซซ์ Jumbo ที่มีขนาด 11.8 x 7.9 x 3.9 นิ้ว หรือ 30 x 20 x 10 เซนติเมตร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บของมากขึ้น ใส่ของใช้ประจำวันได้ครบถ้วน รวมถึงไอเท็มเพิ่มเติม เช่น สมุดโน้ตหรือแท็บเล็ต
และสุดท้ายคือไซซ์ Maxi ซึ่งเป็นไซซ์ใหญ่ที่สุด มีขนาด 13.4 x 9.1 x 3.9 นิ้ว หรือ 34 x 23 x 10 เซนติเมตร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระเป๋าใบใหญ่ที่โดดเด่นและสามารถใส่ของได้เยอะ เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นหรือการใช้งานในวันที่ต้องการความจุเป็นพิเศษ
ด้วยความหลากหลายของขนาดและดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา ทำให้ Chanel Classic Flap Bag เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่งและมือสอง ไม่ว่าจะเป็นขนาดไหน กระเป๋ารุ่นนี้ก็ยังคงความหรูหราและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสามารถใช้งานได้ในหลากหลายโอกาส
กระเป๋า CHANEL Classic Flap เป็นหนึ่งในไอคอนของวงการแฟชั่นที่ได้รับความนิยมสูงไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เนื่องจากดีไซน์ที่หรูหราและไม่ตกยุค นอกจากวัสดุและดีไซน์ที่โดดเด่นแล้ว กระเป๋ารุ่นนี้ยังมีตัวเลือกอะไหล่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ โดยอะไหล่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ อะไหล่ทอง (Gold Hardware) และ อะไหล่เงิน (Silver Hardware) ซึ่งแต่ละแบบให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
อะไหล่ทอง มักจะให้ความรู้สึกหรูหราและคลาสสิก เหมาะสำหรับการใช้งานในโอกาสพิเศษและเพิ่มความสง่างามให้กับผู้ถือ กระเป๋าที่มีอะไหล่ทองจึงดหมาะกับการใช้งานในงานทางการหรือสถานการณ์ที่ต้องการความหรูหรา
นอกจากนี้อะไหล่ทองยังมีให้เลือกอีกหลายเฉดมากมายไม่ว่าจะ Shiny Gold / Matte Gold / Light Gold / Rose Gold หรือ Vintage Gold
ในขณะที่ อะไหล่เงิน ให้ความรู้สึกทันสมัยและสะอาดตา ดูเรียบหรู เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ที่ดูทันสมัยและไม่โอเวอร์จนเกินไป อะไหล่เงินสามารถเข้ากับลุคที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ทั้งลุคทางการและลุคสบาย ๆ รวมทั้งมีให้เลือกเฉดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Shiny Silver Hardware / Matte Silver Hardware / Ruthenium hardware
ไม่ว่าจะเลือกอะไหล่ทองหรือเงิน CHANEL Classic Flap ก็ยังคงเป็นกระเป๋าที่ไม่ตกยุคและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในการลงทุนตลอดกาล