ท่ามกลางโลกที่แปรผัน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกวัน มนุษย์ล้วนไขว่คว้าและสร้างสรรค์ผลงานออกมาเพื่อต้องการที่จะถูกจดจำ เพียรสร้างสิ่งที่เป็นประจักษ์แม้จะไม่ถาวร ทว่าหากกล่าวถึงหนึ่งในเอกลักษณ์ที่สำคัญ ภาพจำในวงการแบรนด์เนมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตัวอักษร C ไขว้หันหลังชนกัน ที่หลายคนมักมองว่าสิ่งนี้เป็นเหมือน DNA ของแบรนด์ CHANEL แต่ใครจะรู้ว่าโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ชิ้นเอกนี้ไม่ใช่ผลงานของ COCO CHANEL
เอกลักษณ์แรกเริ่มของ CHANEL
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1929 ท่ามกลางบริบทสังคม ที่ให้ความสำคัญแก่เพศชาย มีดีไซเนอร์หญิงท่านหนึ่ง COCO CHANEL ที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง ผลักดันอิทธิพลของหญิงสาวทั่วโลกให้มีความทัดเทียมกันกับเพศชาย COCO CHANEL ได้ผลิตกระเป๋าสำหรับผู้หญิงออกแบบเพิ่มสายกระเป๋าเข้าไป เนื่องจากเธอได้ประสบปัญหาจากกระเป๋าถือที่เธอใช้อยู่ เพราะมันทำให้สูบบุหรี่ได้ไม่ถนัดขณะ จึงออกมาเป็นกระเป๋ารุ่น CHANEL 2.55 และมีตัวล็อกเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดผืนผ้าที่เรียกว่า Mademoiselle Lock
Karl Lagerfeld ดีไซน์เนอร์ผู้เกิดมาเพื่อเปลี่ยนแปลง
จนภายหลังในปี 1982 CHANEL ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่โดยได้มีการแต่งตั้งดีไซน์เนอร์มากฝีมืออย่าง Karl Lagerfeld ขึ้นนั่งรับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของแบรนด์ CHANEL หลังจากที่ Karl Lagerfeld ได้เคยร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น PIERRE BALMAIN, FENDI, VALENTINO เขาได้ปลุกปั้นและผลิกฟื้นแบรนด์เหล่านั้นให้ได้กลับมามีชีวิตชีวา และโลดเล่นอยู่ในวงการแฟชั่นอีกครั้งอย่างสมศักดิ์ศรี และการรั้งตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของ CHANEL ครั้งนี้ทำให้ถูกจับตามองเป็นอย่างมากว่าเขาจะกำหนดทิศทางของแบรนด์ให้เป็นไปได้ในรูปแบบใด
จากเอกลักษณ์สู่อัตลักษณ์
และไม่เคยทำให้ผิดหวังในซักครั้ง เพราะทันทีที่ Karl Lagerfeld ร่วมงานกับ CHANEL เขาได้รังสรรค์ความคิดและเสริมสร้างสัญลักษณ์ใหม่ ๆ ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงความเป็น CHANEL ไม่ว่าจะเป็นดอกคามิเลีย ดอกไม้ดอกโปรดของ COCO เขาหยิบยกมันมาอยู่ในทุกที่แม้กระทั่งกล่องของตัวสินค้าต่าง ๆ เวลาที่ลูกค้าได้รับกระเป๋า CHANEL หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อที่จะสร้างภาพจำให้แก่บุคคลทั่วไป และผลงานที่กลายเป็นตำนานของวงการแฟชั่น กระเป๋าที่สาว ๆ ทุกคนล้วนใฝ่ฝันถึง กระเป๋า CHANEL CLASSIC เขาได้เป็นคนออกแบบ และได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวล็อคด้านหน้ากระเป๋าให้ดูมีความ ICONIC มากยิ่งขึ้น โดยการใช้ตัว C ที่เป็นอักษรย่อของ COCO CHANEL ผู้ก่อตั้งแบรนด์มาไขว้กัน และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในวงการแฟชั่นของ CHANEL ที่อยู่ใต้การหุมบังเหียนของ Karl Lagerfeld